ดมกลิ่นกระดาษ อ่าน “หนังสือธรรมะ”
ชวนอ่านหนังสือธรรมะ หลากสไตล์
หนังสือธรรมะ นั้นเปรียบเสมือนประทีปส่องธรรม ผู้ประพันธ์บางท่านอาจจะไม่เคยบวชเรียน แต่มีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมอย่างลึกซึ้ง หรือบางท่านสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตได้อย่างน่าสนใจ
ในบทความนี้ ผู้เขียนขอแนะนำหนังสือน่าอ่าน 9 เล่ม จาก 9 นักประพันธ์ และเพื่อให้เห็นมุมมองที่หลากหลาย จึงขอหยิบยกหนังสือที่ผู้ประพันธ์ ณ ตอนนั้นไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์
1
ธัมมานุธัมมปฏิบัติ
– คุณหญิงดำรงธรรมสาร (ใหญ่วิเศษศิริ) –
หนังสือที่เป็นที่ยกย่องของครูบาอาจารย์หลายท่าน โดยเชื่อว่าเป็นการโต้ตอบปัญหาธรรมะระหว่าง พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระผู้ใหญ่ฝ่ายธรรมยุตรูปหนึ่ง เรามักจะเห็นหนังสือเก่าๆ หน้าปกเป็นรูปของพระอาจารย์มั่น
หนังสือประกอบไปด้วยปุจฉาวิสัชนา 5 ชุด ต่อมาภายหลังสองนักวิชาการ คุณนริศ จรัสจรรยาวงศ์ และมาร์ติน ซีเกอร์ ได้ร่วมกันพิสูจน์ว่า แท้จริงหนังสือเล่มนี้เป็นบทประพันธ์ของ “คุณหญิงใหญ่ ดำรงธรรมสาร” นับว่าเป็นสตรีรุ่นแรกๆ ที่ได้ประพันธ์หนังสือธรรมะ และนับว่าเป็นงานที่ยากยิ่งในการค้นหาเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 80 ปีก่อน
ปัจจุบันผลงานของคุณหญิงดำรงธรรมสาร-(ใหญ่วิเศษศิริ) ได้ถูกจัดพิมพ์ในชื่อว่า “ดำรงธรรม” บรรณาธิการ : Martin Seeger & นริศ จรัสจรรยาวงศ์พิมพ์ปี 2559
เรื่องราวของการค้นหาข้อมูลจากผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 80 ปี เพื่อติดตามหาปริศนาธรรม ที่คุณนริศ จรัสจรรยาวงศ์ และมาร์ติน ซีเกอร์ ได้พยายามปะติดปะต่อเรื่องราวจนได้บทสรุปที่เราได้ทราบกัน จนกลายเป็นงานวิจัยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนา ได้ถูกนำมาทำเป็นสารคดีที่ชื่อว่า ตามรอยบทธรรมปริศนา “Lost in The Mists of Time”
สารคดีที่ได้รับเชิญให้จัดฉายในเทศกาลหนังอุษาคเนย์ เทศกาลหนังสารคดี ประจำปี 2016 แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ The Oxford Southeast Asian Documentary Film Festival 2016
รูปแบบของหนังสือเป็นลักษณะ ปุจฉา-วิสัชนา ถือเป็นบทสนทนาธรรมที่มีคุณค่ามาก ในทรรศนะของผู้เขียนมองว่า คุณหญิงใหญ่ ดำรงธรรมสาร ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติภาวนา จนบรรลุถึงธรรมะชั้นสูง เพราะสามารถถ่ายทอดธรรมะได้อย่างลึกซึ้ง ถ้อยคำไพเราะ อีกทั้งคำถามเป็นคำถามที่ซักถามได้ตรงประเด็น เช่น คำถามบางตอนใน ปฏิปัตติวิภังค์
ถาม : เมตตากรุณา กับรัก นั้นเหมือนกันหรือต่างกัน
– ปฏิปัตติวิภังค์ –
ตอบ: ต่างกันมาก อย่างละอริยสัจทีเดียว ความรักนั้นเป็นสมุทัย เมตตากรุณาเป็นมรรค
ถาม : เช่น รักบุตรหลานญาติมิตร คิดให้เป็นสุขและให้พ้นทุกข์หรือสงสาร จะว่าเป็นสมุทัยอย่างไร รู้สึกรสชาติของใจประกอบด้วยความเอ็นดูปราณี
ตอบ: ความรักและความสงสารบุตรหลานญาติมิตรประกอบด้วยฉันทราคะ อาลัยห่วงใยกังวลพัวพันยึดถือ หนักใจไม่โปร่ง เมื่อคนรักเหล่านั้นวิบัติไป เช่น ตาย เป็นต้น ก็เกิดทุกข์ …
หากท่านใดสนใจสามารถอ่านทั้ง 5 ชุด ได้ที่นี่
(ขอขอบคุณผู้จัดทำหนังสือ และที่มาของหนังสือจาก link สติภาวนา)
Link ข้อมูล : ประวัติ คุณหญิงใหญ่ ดำรงธรรมสาร The people : https://www.thepeople.co/read/history/3615 ศิลปวัฒนธรรม silpa-mag.com : https://www.silpa-mag.com/culture/article_73846 |
2
คุณแม่สิริสอนไว้
– คุณแม่ ด.ร.สิริ กรินชัย –
หนังสือคุณแม่สิริสอนไว้ เป็นการถอดความจากคำบรรยายธรรมในที่ต่างๆ ทำให้รู้สึกเหมือนมีคุณแม่สิริมานั่งสอนอยู่ข้างๆ อีกทั้งยังอ่านอย่างเพลิดเพลิน เทคนิคการสอนในหลักสูตรของคุณแม่สิริ 7 คืน 8 วัน มี 3 วิธี คือ เดินจงกรม นั่งสมาธิ และเจริญสติให้ทันปัจจุบัน มีการสอบกลับอารมณ์ของผู้ปฏิบัติ ตอบคำถาม ชี้แนะ และสร้างเสริมกำลังใจ
นอกจากนี้ยังมี หนังสือ “ตามรอยคุณแม่สิริ” ที่รวบรวมการสอน นั่งสมาธิ เดินจงกรม เคล็ดลับต่างๆ อาการญาณ 16 รวมถึงบทสัมภาษณ์ทายาทธรรม 5 ท่าน
ผู้เขียนได้ฟังคำบรรยายของคุณแม่สิริครั้งแรกใน youtube เกิดความรู้สึกเคารพและศรัทธาคุณแม่สิริอย่างน่าประหลาดใจ จึงได้ศึกษาธรรมะกับคุณแม่สิริหลายๆ หัวข้อ
คุณพ่อของผู้เขียนซึ่งปัจจุบันอายุ 75 ปี เล่าให้ฟังว่า เคยเข้าอบรมกับคุณแม่สิริเมื่อสมัยเป็นข้าราชการ มีคนเข้าร่วมอบรมเยอะมาก เวลาสอนคุณแม่สิริพูด ยุบหนอ พองหนอ เสียงดังฟังชัด และมักจะใช้คำเรียกผู้ที่มาปฏิบัติว่า “ลูกโยคี” ซึ่ง โยคี หมายถึง ผู้เพียรเพ่งทำความดีหรือผู้เพียรเพ่งทำลายกิเลส
คำที่ใช้ในองค์ภาวนาของคุณแม่สิริ คือ “หนอ” เช่น ย่างหนอ ปวดหนอ รู้สึกหนอ เพื่อให้กำหนดสติได้ทัน แต่ถ้ากิริยาไหนที่กำหนดไม่ทัน ก็ไม่ต้องหนอ เช่น เมื่อกำลังวิ่งอยู่ ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญคือ ผลที่ได้จากการปฏิบัติ หากทำได้ถูกต้องก็จะมีสติทันกับปัจจุบัน
ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะได้เรียนรู้จากคุณแม่สิริ คือ เรื่องของ “กรรม” เมื่อเราทำวิปัสสนาแล้วนั้น กฎแห่งกรรมจะปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น ท่านมองเห็นความเจ็บป่วยเป็นกรรมอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าชาตินี้ เราจะไม่ได้ทำบาป แต่ก็ไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมไปได้
ท่านใดที่สนใจคำบรรยายและการสอนวิปัสสนาของคุณแม่สิริ สามารถเข้าไปดูได้ที่ youtube ซึ่งเผยแพร่โดย ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย
Link ข้อมูลและประวัติ คุณแม่ ด.ร.สิริ กรินชัย 1. http://www.khunmaesiri.org 2. วิดีทัศน์สอนวิปัสสนากรรมฐาน โดย คุณแม่สิริ กรินชัย โครงการ พัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข เผยแพร่โดยยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย 3. Facebook บ้านคุณแม่สิริ |
3
นามานุกรมพุทธประวัติ ฉบับประชาชน
– ส.พลายน้อย –
หนังสือนามานุกรมพุทธประวัติ รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้า เรียงลำดับตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ หรือบุคคล ยกตัวอย่าง คำศัพท์ เช่น “กบิลพัสดุ์” “กีสาโคตมี” หรือแม้กระทั่งคำว่า “การแสดงความเคารพ” ที่คุณ ส.พลายน้อย ได้อธิบายโดยละเอียดว่าในสมัยก่อนผู้ที่มาเฝ้าพระพุทธเจ้าทำความเคารพแบบไหน หรือในพระไตรปิฎกที่บันทึกไว้ว่ามีการแลบลิ้นแสดงความเคารพ
เรื่องราวต่างๆ นั้น ได้ถูกค้นคว้าอย่างละเอียด และร้อยเรียง ต่อเนื่องกับประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังแทรกเกร็ดความรู้ต่างๆ ที่เราคงไม่พบเจอในหนังสือพุทธประวัติทั่วไป
หนังสือเล่มนี้มีคำศัพท์ที่เราอาจจะไม่เคยได้ยินหลายๆ คำ เช่น “โกกนุทปราสาท” หรือ ปราสาทบัวแดง ที่พระเจ้าสีหหนุ (พระราชบิดาของพระเจ้าสุทโธทนะ) สร้างเป็นที่ประทับ ณ สวนลุมพินี ในการพระราชพิธีอภิเษกสมรสพระสิทธัตถะ
มีบางคำที่เราอาจจะค้นหาไม่เจอใน google เช่น คำว่า “ศตเกตุ” คำนี้หมายถึง พระอินทร์ ซึ่งใช้กับพุทธประวัติฝ่ายมหายานในทิเบต หรือคำว่า “เสียงท้าวมหาพรหม” ซึ่ง ในพุทธประวัติกล่าวว่าเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ ทรงพิจารณาว่าธรรมที่ทรงตรัสรู้นั้นลึกซึ้ง ยากที่บุคคลจะรู้ตามและรู้สึกท้อพระทัย ขณะที่รำพึงอยู่นั้น ท้าวมหาพรหมก็ทรงเปล่งเสียงว่า โลกจักฉิบหายในครั้งนี้
นามานุกรม หรือทำเนียบนาม (Directory ) หนังสือที่รวบรวมรายชื่อบุคคล องค์กรต่างๆ พร้อมสถานที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์ จัดเรียงรายการตามลำดับอักษร สารานุกรม (Encyclopedia) หนังสือที่รวบรวมความรู้ในแขนงวิชาต่างๆ โดยผู้ชำนาญในแต่ละสาขาวิชา จัดเรียงเนื้อหาตามลำดับอักษรหรือแบ่งเป็นหมวดหมู่วิชา พจนานุกรม (Dictionary) หนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับคำ ได้แก่ ความหมายของคำ ชนิดของคำ ตัวสะกด |
งานเขียนของคุณ ส.พลายน้อย ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สารคดีต่างๆ หนังสือที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาที่น่าสนใจอีกหลายๆ เล่ม ที่อยากแนะนำให้อ่าน เช่น “ตามรอยพุทธประวัติ” , “เกิดครั้งพุทธกาล” ,”พระเจ้าอโศกมหาราช พุทธศาสนูปถัมภกผู้ยิ่งใหญ่” โดยเฉพาะเรื่อง “พระเทวทัต ผู้ตกนรกทั้งเป็น” ที่รวมเรื่องของพระเทวทัตฉบับสมบูรณ์ เช่น พระเทวทัตเป็นโอรสของใคร หรือแม้กระทั่งเรื่องที่น่าชวนคิดว่า พระพุทธเจ้าทราบหรือไม่ว่า พระเทวทัตจะทำสังฆเภท ต้องตกนรก 1 กัลป์
Link ข้อมูลและประวัติ คุณ ส.พลายน้อย 1. สุดอาลัย “ส.พลายน้อย” เสียชีวิตในวัย 93 ปี ย้อนคุยที่มาของ “นามปากกา และอนุสรณ์ก่อนตาย โดย เวปไซต์ ศิลปวัฒนธรรม silpa-mag.com |
4
โอษฐ์เทวะ
– ภูเตศวร –
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือในหมวดธรรมะแต่อย่างใด หากแต่เป็นจุดเชื่อมโยงให้เราได้พบกับ “ธรรมะ 5 นาที” ของคุณภูเตศวร
ธรรมะ 5 นาที เคยอยู่คู่กับนิตยสารขวัญเรือนยาวนานถึง 15 ปี คุณภูเตศวรสามารถเขียนและอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะได้อย่างที่ตัวคุณภูเตศวรยังแปลกใจ เหตุเพราะไม่เคยเรียนธรรมะมาก่อนหากแต่ความรู้กลับพรั่งพรูออกมา นั่นเป็นเพราะ “สัญญา” เดิม และญาณทัสนะของเทพเทวดา มีบทความมากกว่า 200 เรื่อง สามารถอ่านได้ที่ http://www.dhamma5minutes.com/
ธรรมะ ๕ นาที จะเป็นเพื่อนปลอบใจ ยามทุกข์ ของคนทั้งหลาย
จากใจภูเตศวร – http://www.dhamma5minutes.com/
และถ้า ธรรมะ ๕ นาที จะเป็นแหล่งความรู้ เล็กๆด้านธรรม สำหรับนำไปใช้เพื่อประโยชน์สุขในชีวิตได้บ้าง
เท่านี้ก็ถือเป็นความสำเร็จ สมปณิธาน ที่ตั้งไว้แล้วอย่างแท้จริง!
ธรรมะ ๕ นาทีนี้ อ่านง่าย เข้าใจง่าย ถ้าใครชอบอ่านจากหนังสือสามารถหาซื้อได้ มีหลายเล่ม หลายตอน ส่วนหนังสือโอษฐ์เทวะนั้น คุณภูเตศวร ได้บอกเล่าประสบการณ์จริงที่เกี่ยวข้องกับเทพ คือ “มหาวิษณุนารายณ์” จากจุดเริ่มต้นวันแรกที่ได้พบเจอ จนกระทั่งได้ทำหน้าที่เป็นร่างทรง และสุดท้ายได้ทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้ทางพุทธศาสตร์และเทวศาสตร์ และเป็นสื่อนำศรัทธาญาติธรรมทั้งหลายมาสร้างบารมีร่วมกัน
ไม่ว่ายุคสมัยไหน เรื่องราวเกี่ยวกับคนที่มีสัมผัสพิเศษ หรือพูดคุยทางจิตกับเทพได้นั้น เป็นเรื่องที่บางคนบอกว่า งมงาย โกหก บ้า แต่ถ้าใครเปิดใจอ่านหรือฟังเรื่องราวของคุณภูเตศวรแล้ว จะต้องรู้สึกประหลาดใจ ความคลางแคลงสงสัยบางอย่าง จะกลับกลายเป็นความเข้าใจ พร้อมกับความรู้ใหม่ๆ
ผู้เขียนสังเกตได้ว่า คนที่ได้รับญาณ (ปัญญา) จากองค์เทพนั้น ไม่ใช่แบบที่เราๆ เห็นในทีวีหรือที่เป็นข่าว ส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตปกติ มุ่งเน้นไปทางสร้างบารมี นั่งสมาธิ เจริญปัญญา บางคนไม่ได้มีชีวิตที่อิสระเพราะต้องทำหน้าที่บางอย่าง ดังคำที่ว่า “ฟ้าลิขิต” ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นจะปรับเปลี่ยนความคิดและวิถีชีวิต อยู่ด้วยความ “ไม่ทุกข์” ได้ยังไง และนั่นคือ “ปัญญา” ซึ่งในวันข้างหน้าพวกเราอาจจะรู้สึกอิจฉาคนเหล่านั้นก็ได้ เพราะความอดทน ความเพียรของพวกเขาจะทำให้พบกับ “จิต” ที่เป็น “อิสระ” อย่างแท้จริงด้วยเทพและธรรมที่นำทาง
เทพ-เทวดา คือ พลังงานชนิดหนึ่ง ตัวเราก็เปรียบเสมือนเป็นเครื่องรับสัญญาณ พลังงานนั้นเปรียบดังคลื่น ที่สามารถเบียดแทรกมายังร่างกายเราได้ โดยอากาศธาตุ คือ ช่องว่างต่าง ๆ ในอณูของร่างกาย – เรียบเรียงจาก หนังสือโอษฐ์เทวะ |
5
คำพลีชีวิต words for life
– พีระวัฒน์ อริยทรัพย์กมล Super Richy –
คุณริชชี่ เป็นอีกหนึ่งท่านที่ได้รับการประทาน ธรรม และปัญญา จากองค์พระนารายณ์ “คำพลีชีวิต” เป็นหนังสือฉบับพ็อกเก็ตบุ๊ค มีการเล่นคำ และตีความในคำคำนั้นให้รู้สึกแปลกใหม่ เริ่มจากชื่อหนังสือ ที่น่าจะเป็นคำพ้องเสียงจากคำว่า คัมภีร์ และบทความในตอนต่างๆ เช่น “โลง” ละคร , ผู้ “กรรม” กับ , “ทรัพย์” ซ้อน เป็นต้น
จัดว่าเป็นหนังสือธรรมะที่คนรุ่นใหม่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ส่วนคนรุ่นเก่าอ่านแล้วจะพบกับมุมมองใหม่ๆ หนังสือมีคนเขียนคำนิยมมากเป็นพิเศษ และมี “คำเตือน” ที่อ่านแล้ว…อดยิ้มไม่ได้
ใน website ธรรมระรื่นนี้ ผู้เขียนก็จงใจเล่นคำจากคำว่า “ทำ”-ระรื่น ซึ่งสื่อถึงความไม่ซีเรียส แช่มชื่นเบิกบานใจ มันเป็นแวบหนึ่งของความคิดที่โผล่ขึ้นมา ถ้าตั้งใจคิดมันจะคิดไม่ได้ แต่นี่คุณริชชี่ สามารถเล่นกับคำ ทั้งหมด 45 คำ แถมยังมีคำคม เนื้อหาในหนังสือเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ธรรมะ การใช้ชีวิต รวมถึงเรื่อง “กรรม” และมีคำปิดท้ายในแต่ละบท ที่ไม่ทิ้ง concept คือ ใช้คำไขว้ หรือ cross word
หลังจากที่เปิดตัวหนังสือเล่มแรก “Super Richy it’s not easy to be me อุบัติการณ์มหัศจรรย์” คุณริชชี่ก็เงียบหายไปหลายปี จนกระทั่งกลับมาพร้อมกับบทบาทของวิทยากรผู้ให้ความรู้เรื่องกรรม และการปฏิบัติสมาธิเพื่อการขออโหสิกรรม จัดบรรยายในสถานที่ต่างๆ
ประสบการณ์การรักษาและช่วยเหลือผู้คนต่างๆ ของคุณริชชี่ด้วยพลังขององค์พระนารายณ์นั้น ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้เป็นธรรมทานอยู่ใน “ใบแก้กรรม” หากใครเจ็บป่วย หรือมีเรื่องเดือดร้อนต่างๆ ไม่ต้องไปหาใครให้แก้ปัญหาให้ เพราะ “กรรมของใคร คนนั้นต้องแก้เอง” และต้องแก้ด้วย “นั่งสมาธิ” เพื่อขออโหสิกรรมแก่เจ้ากรรมนายเวร
อีกหนึ่งโปรเจ็คพิเศษ (Dec’22) ที่น่าสนใจจากคุณริชชี่ (คือ เพลง “คำพลีชีวิต” ที่นำเอา “คำ” ในหนังสือ “คำพลีชีวิต” มาร้อยเรียงเนื้อหาที่มาจากการ ‘ตีความ’ ผ่านชีวิตจริงศิลปินทั้ง 6 ท่าน จาก HYPETRAIN GROUP วัตถุประสงค์ คือ เชิญชวนผู้ฟังร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ จ.ขอนแก่น ฟังเพลงเพราะๆ ได้ที่ link ด้านล่าง
Link ข้อมูลเพิ่มเติม 1. Facebook Super Richy https://web.facebook.com/richy.super/?_rdc=1&_rdr 2. ใบแก้กรรม website https://www.superrichy.org/ 3. สัมภาษณ์คุณริชชี่ รายการ VIP (ปี 2550) https://youtu.be/LNZ5-57Vbf0 4.บทสัมภาษณ์ พีระวัฒน์ อริยทรัพย์กมล | ผู้ที่ถูกเลือกจากองค์พระนารายณ์มหาเทพ https://www.geukma.com/8706/ |
6
๗ เดือน บรรลุธรรม
– ดังตฤน –
หนังสือ 7 เดือน บรรลุธรรมนี้ เป็นเรื่องราวที่คุณ ดังตฤน ถ่ายทอดออกมาแบบในแบบ ธรรมนิยาย ตัวเอกของเรื่องคือ “ฉัน” ซึ่งคุณดังตฤน ออกตัวไว้ว่า ฉัน ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคุณดังตฤน และความรู้สึกที่บรรลุธรรมนั้น อ้างอิงจากการสาธยายธรรมในพระไตรปิฎก
ถ้าใครฝึกแบบ “สติปัฏฐาน 4” จะต้องทราบว่า หนทางนี้เป็นทางสายเอก โดยพระพุทธเจ้าได้รับรองว่า
ใครก็ตามที่เจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้อย่างต่อเนื่อง เขาพึงหวังผล ๒ ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ พระอรหัตผลในปัจจุบัน หรือถ้ายังมีอุปาทานเหลืออยู่ก็เป็นพระอนาคามี ภายในเวลา ๗ ปี หรือ ๖ ปี หรือ ๕ ปี หรือ ๔ ปี หรือ ๓ ปี หรือ ๒ ปี หรือ ๑ ปี หรือ ๗ เดือน หรือ ๖ เดือน หรือ ๕ เดือน หรือ ๔ เดือน หรือ ๓ เดือน หรือ ๒ เดือน หรือ ๑ เดือน หรือ ๑๕ วัน หรือ ๗ วัน
หนังสือเล่มนี้ต้องการสื่อถึงผู้อ่านว่า ถ้าเพียรปฏิบัติทุกวัน จะสามารถบรรลุธรรมได้ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่เราจะถึงมรรคผลนิพพาน
หากใครที่ไม่เคยเจริญอาณาปาณสติมาก่อน และไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน ผู้เขียนขอแนะนำให้วางหนังสือเล่มอื่นๆ สักพัก และตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะคุณดังตฤน จะค่อยๆ พาเราให้รู้จักอาณาปาณสติ สติปัฏฐาน 4 โพชงค์ 7 อย่างแยบยล
ติดตามดูชีวิตของ “ฉัน” วันต่อวัน จนกระทั่งถึงวันที่ดวงตาเห็นธรรม นั้นมันเป็นอย่างไร เมื่ออ่านจบแล้วผู้เขียนขอแนะนำให้หยิบหนังสือ มหาสติปัฏฐานสูตร ที่เขียนโดยคุณดังตฤน มาอ่านเพิ่มเติม
“ฉัน” อาจจะเป็นตัวละครที่ใกล้เคียงกับชีวิตใครหลายๆ คน นั่นคือ มนุษย์เงินเดือน และจะยิ่งรู้สึก “อิน” มากขึ้นเมื่อในที่ทำงานมีคนที่เราเกลียดขี้หน้า
“ฉัน” ทำให้เราเห็นว่า การทำงานนั้นสามารถปฏิบัติธรรมไปได้ด้วยแค่มีสติ ความรู้สึกเหนื่อยหน่ายท้อใจ และความรู้สึกในการปฏิบัติธรรมที่เดินหน้าสลับกับถอยหลัง หรือบางครั้งที่เจอสถานการณ์ “ปราบเซียน” ถึงขั้นสติแตกกระเจิง จนต้องนับ 1 ใหม่นั้น เป็นเรื่องที่นักปฏิบัติธรรมทั้งหลายอาจจะต้องพบเจอ
คุณดังตฤนได้รวบรวมผลงานทั้งหมดและแจกจ่ายเป็นธรรมทานไว้ที่ https://www.dungtrin.com/ หากใครอยากอ่านธรรมะสั้นๆ แต่ทะลุถึงจิตใจ ผู้เขียนแนะนำให้ติดตาม twitter และ facebook ของคุณดังตฤนด้วย
7
พระอานนท์ พุทธอนุชา
– อ.วศิน อินทสระ –
เรามาต่อกันที่หนังสือธรรมนิยาย อีกเรื่อง ชื่อว่า .พระอานนท์ พุทธอนุชา เป็นธรรมนิยายอิงชีวประวัติ ซึ่งได้รับการยกย่อง จาก ENCYCLOPEDIA OF WORLD LITERATURE IN 20TH CENTURY วรรณคดีของโลกในศตวรรษที่ 20 ว่าเป็น วรรณกรรมศาสนาที่น่าอ่าน สามารถนำมาเป็นหลักในการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบันได้
อ.วศิน ปราชญ์แห่งวงการพุทธศาสนา ได้รับรางวัลเสมาธรรมจักร ในฐานะที่เป็นฆราวาสผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สาขาวรรณกรรม ผลงานหนังสือ เช่น นวนิยายอิง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา บทความทางวิชาการ หนังสือตําราเรียน หนังสือสําหรับประชาชนทั่วไป ย่อความและขยายความพระไตรปิฎก ฯลฯ ประมาณ ๑๓๐ เรื่อง (ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๗ ถึง ๒๕๕๒)
อ.วศิน กล่าวไว้ในคำนำ ของหนังสืออานนท์ พุทธอนุชา ว่า
“เรื่อง พระอานนท์ พุทธอนุชา เนื้อหาของเรื่องจริงๆ ไม่มีมากนักที่หนังสือเป็นเล่มขนาดใหญ่ขนาดนี้เพราะการเพิ่มเติมเสริมต่อของข้าพเจ้า ในทำนองธรรมนิยายอิงชีวประวัติ
ข้าพเจ้าชี้แจงข้อนี้สำหรับท่านที่ไม่คุ้นกับเรื่องทางศาสนานัก อาจจะหลงเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องที่มีหลักฐานทางตำราทั้งหมด สำหรับท่านที่คงแก่เรียนในทางนี้อยู่แล้วย่อมทราบดีว่าตอนใดเป็นโครงเดิมและตอนใด แห่งใด ข้าพเจ้าเพิ่มเติมเสริมต่อขึ้น นอกจากนี้ยังมีหลายตอนที่ข้าพเจ้าสร้างเรื่องขึ้นเอง เพียงแต่เอาพระอานนท์ไปพัวพันกับเหตุการณ์นั้นๆ เพื่อให้นิยายเรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเห็นว่าไม่เป็นทางเสียหายแต่ประการใด”
เนื้อเรื่องส่วนที่ อ.วศิน แต่งเติมเสริมต่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดคือ เรื่องความรักข้างเดียวของนางโกกิลาภิกษุณีที่มีต่อพระอานนท์ เรื่องนี้ทำให้เราเห็นภาพความกลัดกลุ้มใจของพระอานนท์ต่อความรู้สึกสงสารนางโกลิกาภิกษุณี แม้ว่าจิตของพระโสดาบันนั้นจะไม่ตกต่ำอีกแล้ว แต่ท่านก็ยังปรารภกับตนเองว่า “อย่าได้ประมาท” สิ่งที่เราพึงได้ข้อคิดจากเรื่องนี้คือ ว่า “เมื่อใดความรักและความหลงครอบงำ เมื่อนั้นบุคคลก็มืดมนเสมือนคนตาบอด”
Link อ่านหนังสือ พระอานนท์ พุทธอนุชา.pdf (เผยแพร่เป็นธรรมทานโดย ชมรมกัลยาณธรรม)
Link ข้อมูลเพิ่มเติม 1. Facebook อ.วศิน https://web.facebook.com/W.Indhasara 2. อัตตชีวประวัติ (pdf) อ.วศิน อินทสระ 3.ชมรมกัลยาณธรรม หนังสือธรรมทาน https://www.kanlayanatam.com/tammabook.htm |
8
พุทธศาสนา : ทรรศนะและวิจารณ์
– เสฐียรพงษ์ วรรณปก –
ปราชญ์แห่งพุทธศาสนาของไทยอีกท่าน คือ อ. เสฐียรพงษ์ วรรณปก ท่านได้ประมวลข้อเขียนที่เขียนลงในหนังสือหลายประเภท ทั้งหนังสือวิชาการ กึ่งวิชาการ รวมถึงหนังสือต่วย’ตูน มาไว้ในหนังสือ พุทธศาสนา : ทรรศนะและวิจารณ์
หนังสือเล่มนี้ อ. เสฐียรพงษ์ กล่าวไว้เองว่า ข้อคิดเห็นในหนังสือที่ท่านเขียนนี้บางเรื่อง ออกจะดุเดือด ไปหน่อย ซึ่งอาจารย์เขียนไว้ในช่วงสถานการณ์ต่าง ๆ ณ เวลานั้น พอมาถึงตอนนี้บางเรื่องท่านเองก็รู้สึก ไม่เห็นด้วย
มีอยู่หัวเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนอ่านครั้งแรกก็รู้สึกตกใจที่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย ? และพระองค์ไม่ได้หนีบวช แต่ออกผนวชด้วยเหตุผลทางการเมือง สุดท้าย อ. เสฐียรพงษ์ ก็มาเล่าในอีกตอนว่า เรื่องนี้ ถูกด่าซะมันส์หูไปเลย เพราะคนรับไม่ได้
หนังสือเล่มนี้จะพาเราออกจาก “กรอบ” ที่เราคุ้นเคย กรอบในที่นี้ คือ กรอบความรู้ ที่ไม่ได้อยู่ในหนังสือธรรมะ หากแต่กลั่นมาจากความรู้ การพินิจพิเคราะห์และประสบการณ์ต่างๆ ไล่เรียงตั้งแต่เรื่องของการกิน วิธีหากินของพระ กับข้าวผี ฯลฯ ทั้งหมด 38 ตอน ด้วยสไตล์การเขียนที่สนุก ได้ความรู้ และวิสัยทัศน์ของ อ. เสฐียรพงษ์ นั้น บางเรื่องชวนคิด และอยากรู้ว่าบทสรุปจะจบลงแบบไหน
อ. เสฐียรพงษ์ มีผลงานหนังสือมากกว่า 100 เล่ม ท่านเสียชีวิต เมื่อปี พ.ศ. 2565
นามปากกา ::
ไต้ ตามทาง ใช้เขียนเรื่องประเภทขำขันทีเล่นทีจริง
เปรียญเก้าประโยค ใช้เขียนเรื่องประเภทการใช้ภาษา
เสฐียรพงษ์ วรรณปก ใช้เขียนเรื่องประเภทวิชาการและสารคดี
Link ข้อมูลเพิ่มเติม 1.ประวัติ เสฐียรพงษ์ วรรณปก – วิกิพีเดีย |
9
ดวงตาแห่งชีวิต
– เขมานันทะ –
ปิดท้ายกันที่หนังสือ ดวงตาแห่งชีวิต เป็นธรรมบรรยายของท่านเขมานันทะเมื่อประมาณปี พ.ศ.2543 ที่ อาศรมศานติ-ไมตรี จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากท่านเองเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ลักษณะการเจริญภาวนาของท่านจึงเป็นการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน
ท่านเขมานันทะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์ บทความ นวนิยาย) ศิษยานุศิษย์ของท่านอาจารย์พุทธทาส ได้ใช้ชีวิตในเพศบรรพชิต 16 ปี สร้างผลงานอันทรงคุณค่าไว้ที่โรงมโหรศพทางวิญญาณ สวนโมกขพลาราม และเมื่อกลับมาเป็นฆราวาสก็สร้างสรรค์ผลงาน โดยมีผลงานหนังสือที่ตีพิมพ์มาแล้วมากกว่า 60 เล่ม
หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนขอสารภาพตามตรงว่า ใช้เวลาในการอ่านแต่ละตอนค่อนข้างนาน เนื่องจากการบรรยายของท่าน ไม่ได้เน้นไปที่วิธีการฝึกสติอย่างเดียว แต่หากยกเรื่องราวต่างๆ เข้ามาให้เราได้พิจารณาเรื่อยๆ และค่อยๆ พาเรากลับมายังฐานของสติ อีกทั้งภาษาที่ท่านใช้ก็สละสลวย สวยงาม บางเรื่องเหมือนเรื่องธรรมดาๆ แต่ท่านสามารถถ่ายทอดได้อย่างมีมิติ ยิ่งถ้าได้นั่งหลับตาฟังท่านบรรยายธรรม จะรู้สึกสงบ เข้าใจ และเข้าถึงมากกว่าการอ่านหนังสือ หากใครไม่สามารถหาหนังสือมาอ่านได้ ผู้เขียนขอแนะหนังสือเสียงด้านล่าง