รวมคำสอนจากซีรีย์ – พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก
เมื่อสติตื่นแล้ว เราจะรู้ว่า การเกิด การตาย และการพลัดพราก เป็นสิ่งเดียวกัน
“Buddha: Rajaon Ka Raja” (Buddha — The King of Kings) เป็นละครโทรทัศน์แนวอิงประวัติศาสตร์ของอินเดียที่ฉายทางสถานีโทรทัศน์ Zee TV ในปี 2013 ออกอากาศในประเทศไทยทางช่องเวิร์คพอยท์ ชื่อเรื่อง พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก ในปี พ.ศ 2015 และฉายซ้ำเมื่อปี 2020
ซีรีย์ พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก ครอบคลุมเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ชีวิตในวัยเยาว์ การสละความสุขทางโลก การแสวงหาความรู้แจ้ง ความท้าทายในการเผยแผ่คำสอนของพระองค์ในสังคมสมัยพุทธกาล
ทั้งนี้ผู้เขียนได้รวบรวมคำสอนบางส่วน เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้น้อมนำคำสอนของพระพุทธองค์มาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการพ้นทุกข์
นี่คือความจริงอันสูงสุด ทุกครั้งที่มีการเกิดย่อมมีความทุกข์อยู่กับมนุษย์เป็นเงาตามตัวเหตุผลของความทุกข์ คือการยึดติดกับวัตถุต่างๆ ทั้งที่รู้ดีว่ามันไม่จีรัง
ความจริงข้อแรกของท่าน คือ มี ความทุกข์อยู่ทุกที่ โลกมีแต่ความทุกข์ การเกิดและตายมีแต่ความทุกข์ ขีวิตมีแต่ความทุกข์ มันคือความคิดในแง่ลบ ใช่มั้ย
พระพุทธเจ้า : ท่านพูดถูกแล้ว แต่ว่าหลังจากความจริงข้อแรก เราพูดถึงความจริงข้อหลัก คือ หนทางของการดับทุกข์ เมื่อจะพูดถึงหนทางการดับทุกข์ เราจึงพูดถึงความทุกข์ หนทางที่จะชนะความทุกข์ได้ยังไงนั้น มันจะเป็นเรื่องแง่ลบได้เหรอ
ท่านมาเพื่อทำลายโลก ทำให้คนหนุ่มบวชพระ !
พระพุทธเจ้า : เราไม่ได้ทำลายโลก เราบอกให้ทุกคนละความสุขจอมปลอมทางโลก และเดินหน้าสู่แหล่งกำเนิดชีวิตมันต้องใช้พลังอย่างมากบนเส้นทางนี้ มีแต่มหาบุรุษ ถึงจะเดินได้ ในโลกอันกว้างใหญ่ มือทั้งสองอุ้มบาตรเอาไว้และมีสติอยู่ทุกชั่วขณะจิต มันก็ไม่ต่างจากการเดินบนคมดาบ
ทั้งศาสนาทั้งขนบธรรมเนียม และทั้งการบูชา มันไร้ประโยชน์อย่างงั้นหรือ ?
พระพุทธเจ้า : ถ้ามีคนที่อยากข้ามไปอีกฟากของแม่น้ำ เขาจะต้องทำยังไง ?
มหากัสสปะ : หากน้ำไม่ลึกเกินไป ก็เดินลุยไปได้ แต่หากน้ำลึกก็ต้องพายเรือข้ามไป หรือไม่ก็ว่ายน้ำข้ามไป
พระพุทธเจ้า : แล้วถ้าเขาไม่อยากเดินไปล่ะ ? ถ้าเขาไม่พร้อมจะว่ายน้ำ ถ้าเขาไม่พร้อมจะพายเรือ ถ้าเขาเอาแต่สวดขอพระเจ้า ให้อีกฟากของแม่น้ำเข้ามาหาเขาเองล่ะ
มหากัสสปะ : เราจะเรียกเขาว่าคนโง่ โง่ที่สุด
พระพุทธเจ้า : มันก็เหมือนกับว่า ถ้าเขาควบคุมภาพมายาและความเขลา หรือการใช้สติปัญญา เขาจะไม่พบความจริงอันสูงสุด อย่างนั้นหรือ ? ถ้าเขาทำพิธีบูชา ถวายเครื่องเซ่น หรืออดอาหาร เขาก็ยังติดอยู่ที่ฝั่งเดิมต่อไป
- ความไม่รู้ สร้างความเจ็บปวด โศกเศร้าและมายา ความโกรธ ความโลภ ความอวดดี ความถือดี ความริษยา คือ ผลพวงของความไม่รู้ มายาแสดงแต่เรื่องไม่ดี ล่อหลอกเรา แต่ชีวิตและความตายนั้น ไม่ต่างกัน เป็นสิ่งเดียวกัน เราต้องล้างภาพมายาออก เมื่อใดก็ตามที่ภาพมายาหายไป พวกเราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปัจเจก โดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งอื่น
- ศีล สมาธิ และปัญญา การใช้หนทางการดับทุกข์ หรือมรรค 8 ช่วยให้กำจัดภาพมายาไปได้ เราขอย้ำกับพวกท่านว่า ด้วยการรู้ชอบ ด้วยการคิดชอบ ด้วยการเจรจาชอบ ด้วยการปฏิบัติชอบ ด้วยการเลี้ยงชีพชอบ ด้วยการเพียรชอบ ด้วยการมีสติชอบ และด้วยการมีสมาธิชอบ
หากพวกท่านได้พบใครบนเส้นทางตรัสรู้ อย่ายอมรับเขาอย่างง่ายดาย แม้พวกท่านจะพบพุทธะระหว่างทาง ก็อย่าถูกเขาลวงตาได้ ต่อให้พวกท่านพบพ่อตัวเองระหว่างทาง ก็อย่าให้เขาเบี่ยงเบนท่านได้ จงใช้ชีวิตของตน อย่างเป็นอิสระ อย่าได้ยึดติดกับผู้ใด
เคลือบแคลงนั้นคือ โรคร้าย มันแบ่งแยกผู้คน มันคือ พิษร้าย ที่ทำลายมิตรภาพ มันคือ หนามแหลม ที่คอยทิ่มแทงและจงอย่าลืมว่า ตัวเราจะเป็นไปตามสิ่งที่เราคิดในใจ
มีกรรมดีอยู่ 3 ประการที่ทุกคนควรยึดถือปฏิบัติ คือ กรรมดีทางใจ กรรมดีทางวาจา และกรรมดีทางการประพฤติกาย สามข้อนี้คือมนตรา ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าโลกมนุษย์ไปตลอดกาล จงให้ความเมตตากับทุกคน
- วิธีที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงและจิตใจแข็งแรงนั้น คือการหยุดที่จะโหยหาถึงอดีต และวิตกเรื่องของอนาคต จงอยู่กับปัจจุบัน กับคนที่อยู่ตรงหน้า อยู่กับปัจจุบันขณะ อย่างมีสติและความเข้าใจ แบบนั้นจิตใจจะเข้มแข็ง
ถ้ามีเหตุแห่งทุกข์ ทุกข์จะยังคงอยู่ แต่ถ้าเหตุแห่งทุกข์หมดไป ความทุกข์ก็จะหมดไปด้วย เหมือนกับความมืดที่หายไปพร้อมแสงแดด
ภิกษุทั้งหลาย ตอนนี้เราปฏิบัติตนอย่างดีที่สุด หากว่ามีไฟไหม้ป่า มันจะเผาผลาญพืชพันธุ์ ต้นไม้ที่ขวางทางอยู่ เพื่อลุกลามต่อไป ยิ่งเผาผลาญเชื้อเพลิงเท่าไร่ เปลวไฟยิ่งร้อนแรงเท่านั้น เฉกเช่นเดียวกับการประพฤติที่ไม่ดี มันจะร้อนแรงหากเรายิ่งเติมเชื้อฟืน ความโกรธ ความกังวล ความโลภ ความกลัว มันจะยิ่งร้อนแรงมากขึ้น หากเรายิ่งโหมกระพือใส่มัน ไฟแห่งความเกลียดชังจะอยู่ ไฟแห่งความละโมบจะอยู่ หากเรายังยึดติดกับเรื่องทางโลก
เมื่อสติของท่านได้ตื่นแล้ว ท่านจะรู้ว่า การเกิดและการตาย การอยู่ร่วมกัน และพลัดพราก เป็นสิ่งเดียวกัน
การด่าทอเป็นสิ่งไม่ดี มันไม่มีการโต้ตอบ มีแต่เสียงสะท้อน มันจะดังก้องอยู่ในใจของท่านเท่านั้น เปรียบเสมือนเงา ที่ไม่ทิ้งไปจากตัวคน สิ่งไม่ดีก็ไม่ทิ้งไปจากตัวคนเช่นกัน มันจะย้อนกลับมาให้ท่านเป็นทุกข์
เคล็ดลับของชีวิต คือ เป็นอิสระจากความกลัว
เมื่อใดที่ท่านเป็นอิสระจากความกลัว ท่านจะเข้าสู่หนทางการหลุดพ้น
อารมณ์มีด้วยกัน 3 รูปแบบ
สุข ทุกข์ และวางเฉย ทั้งสามแบบรวมอยู่ในกายของเราในจิตของเรา อารมณ์ก็เป็นเหมือนดั่งคลื่น ไม่นานมันก็จางหายไป เราต้องเห็นความลึกของอารมณ์เหล่านี้ซะก่อน ต้องเข้าใจ รู้จักมัน รู้ว่ามันเกิดมาจากที่ใด
ไม่ว่าท่านจะสุข หรือว่าท่านจะเศร้า จงดูจากที่มาของมัน เมื่อค้นพบที่มาของมันแล้ว ท่านจะรู้ว่า แท้จริงแล้ว มันว่างเปล่า มันว่างเปล่า เหมือนกับท้องฟ้า มันว่างเปล่า แต่ได้ห่อหุ้มทุกอย่างเอาไว้ข้างใน ท่านต้องฝึกฝน เมื่อฝึกฝนแล้ว ท่านจะค่อยๆ พบว่า คลื่นนั้น มันจะหยุดซัดสูงขึ้น ความสงบอันนิรันดร์ในตัวของเรา ก็คือความจีรัง
“จงเป็นตะเกียงของตัวเอง จงตื่นอยู่เสมอ จงเดินไปตามทางของหลักธรรมที่เรียนรู้
จงตั้งสัมมาสติให้มั่น จงอยู่กับตัวเอง จงอย่าเดินตามผู้อื่น”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก facebook พระพุทธเจ้า รวมภาพวาด https://web.facebook.com/69BuddhaPainting69 Youtube : คำสอนพระพุทธเจ้า จากหนังพระพุทธเจ้า (2+1) โดย Dhamma Buddha 1 ปล่อยวาง รวมคำสนทนาและคำสอน จากซีรีส์พระพุทธเจ้า https://pantip.com/topic/36560305 |
อ่านเพิ่มเติม : พุทธประวัติ ฉบับ Timeline